พลาเพลิน บูติค รีสอร์ท และ อุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน ตั้งอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ห่างจาก อำเภอเมือง 32 กิโลเมตรค่ะ ที่นี่หลักๆ แล้วสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เพื่อพัฒนาผู้เรียนนอกห้องเรียนสำหรับเยาวชน และบุคคลทั่วไป เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆ
นอกจากนี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดบุรีรัมย์อีกด้วย ด้านในจะจัดแสดงนิทรรศการด้านศิลปะ และวัฒนธรรมของภาคอีสาน รวมถึงในอุทยานไม้ดอกเพลาเพลินก็จะมีเรือนจัดแสดงพืชพันธุ์นานาชนิด
สำหรับที่นี่จะแบ่งออกเป็นโซนกิจกรรมแอดเวนเจอร์ โซนอุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน และโซนไร่สตรอเบอร์รี่ ค่ะ เราเริ่มเดินชิลกันตั้งแต่โซนแรกไปเลยแล้วกันนะ กับ โซนกิจกรรมแอดเวนเจอร์
โซนกิจกรรมแอดเวนเจอร์ นี้ เป็นโซนกิจกรรมสำหรับเด็กๆ ค่ะ ให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยกิจกรรมประจำฐานต่างๆ ซึ่งมีการจำลองมรดกโลก หรือสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น กำแพงเมืองจีน, หอไอเฟล, สะพานทาวเวอร์บริดจ์, หอเอนเมืองปิซา และสโตนเฮนจ์ มาเป็นฐานกิจกรรม
นอกจากนั้นโซนนี้ไม่ได้มีเฉพาะกิจกรรมแอดเวนเจอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย เพราะจะมีสวนสไตล์อังกฤษให้ได้เดินชิลๆ รวมถึงจุดในอาหารแกะอีกด้วยค่ะ
เดินเรื่อยมาจนถึงอีกโซนนึงกันแล้ว โซนนี้จัดได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของเพลาเพลินทีเดียวก็คือ โซนของอุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน ค่ะ ด้านในจะมีการจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด พร้อมๆ กับให้ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้แต่ละประเภท ซึ่งจะแบ่งย่อยๆ ออกเป็นอีก 6 โรงเรือน ด้วยกันก็คือ
โรงเรือนที่ 1 จัดแสดงพันธุ์ไม้ตามฤดูกาล
สำหรับที่โรงเรือนที่ 1 นี้จะจัดแสดงพันธุ์ไม้ ดอกไม้ต่างๆ ตามฤดูกาลค่ะ เหมาะเจาะกับช่วงที่เรามาเที่ยวนี้เป็นช่วงหน้าหนาวเลยมีโอกาสได้เห็นดอกทิวลิปสวยๆ หลากหลายสีสันมากๆ รวมถึงดอกลิลลี่สีขาวละมุนมากๆ
โรงเรือนที่ 2 จัดแสดงเฟิร์นพันธุ์ต่างๆ ในคอนเซ็ปต์ ป่าดึกดำบรรพ์
โรงเรือนที่ 2 นี้ได้จัดแสดงต้นเฟิร์นหลากหลายพันธุ์ ในคอนเซ็ปต์ ป่าดึกดำบรรพ์ค่ะ ด้านในเราก็จะเห็นต้นเฟิร์นต่างๆ นานา รวมถึงรูปปั้นไดโนเสาร์ยักษ์ซึ่งดูเข้ากับบรรยากาศในนี้สุดๆ ไปเลย ผ่านมา 2 โรงเรือนแล้วยังเพลินๆ อยู่ค่ะ ถ่ายรูปได้เรื่อยๆ เลย
โรงเรือนที่ 3 จัดแสดงพืชกินแมลง ในคอนเซ็ปต์ สีสันแห่งธรรมชาติ
เดินมาถึงตรงนี้ก็ต้องสะดุดกันเล็กน้อย เพราะพืชแต่ละพันธุ์ไม่ใช่หาดูได้ง่ายๆ เพราะที่นี่จัดแสดงพืชกินแมลงนั่นเองค่ะ เราจะเห็นได้ว่ามีการจัดดอกไม้เป็นรูปผีเสื้อ และเต่าทองเต็มไปหมด
โรงเรือนที่ 4 จัดแสดงกล้วยไม้ ในคอนเซ็ปต์ กินรี
โรงเรือนนี้จะดูสวยอย่างไทยๆ มากค่ะ ด้านในจะมีกล้วยไม้หลากหลายสวยพันธุ์ และสีสวยมากๆ รวมถึงมีรูปปั่นกินรีอยู่ตามจุดต่างๆ เป็นกิมมิกอีกด้วย
โรงเรือนที่ 5 จัดแสดงพืชทะเลทราย ในคอนเซ็ปต์ มหาพีระมิด
เดินจนมาถึงโรงเรือนที่ 5 กันแล้ว ตรงจุดเราจะเห็นได้แต่ไกลเลยทีเดียวค่ะ เพราะด้านหน้าของโรงเรือนมีการจัดซุ้มๆ ไว้เหมือนเรากำลังเดินเข้าไปในพีระมิด สำหรับด้านในก็จะมีต้นกระบองเพชรสวยสันสดใส รวมถึงมีรูปปั้นสฟิงซ์ ฟาโรห์ พีระมิดสร้างบรรยากาศให้รู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลทรายเลยล่ะค่ะ
โรงเรือนที่ 6 จัดแสดงดอกหน้าวัว ในคอนเซ็ปต์ ศิลปะอีสานใต้
มาจนถึงโรงเรือนสุดท้าย โรงเรือนที่ 6 เป็นโรงเรือนที่สื่อถึงความเป็นอีสานใต้ มีการจัดแสดงผ้าไทย เครื่องไม้เครื่องมือการทำไร่ทำนาของคนอีสาน รวมถึงมีดอกหน้าวัวจัดแสดงอยู่ด้วยค่ะ
หลังจากเดินครบทั้ง 6 โรงเรือนแล้ว ก็สามารถเดินมาขึ้นรถรางต่อไปที่ทุ่งคอสมอส และไร่สตรอเบอร์รี่ได้อีกด้วยค่ะ สำหรับทุ่งคอมมอสนั้น แนะนำว่าใครที่ชอบถ่ายรูปต้องไม่พลาด เพราะเต็มไปดด้วยสีชมพูสวยมากๆ และไร่สตรอเบอร์รี่ที่อยู่ไม่ไกลกันมากนั้น เป็นไร่สตรอเบอร์ณี่ออร์แกนิคค่ะ ที่ไม่ใช้สารเคมีใดๆ ในการปลูกเลยแม้แต่น้อย
ใครที่อยากมาใช้เวลาเพลินๆ อยู่ที่เพลาเพลินแบบเราก็ไม่ว่ากัน ลองมาเที่ยวพร้อมกับเรามีทัวร์มั้ยได้ที่นี่ได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะไม่ใช่เฉพาะช่วงหน้าหนาว เพราะดอกไม้ พันธุ์ไม้ต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูนั่นเอง เพราฉะนั้นที่นี่เลยเที่ยวชิลๆ ชมดอกไม้ได้ทั้งปีทีเดียวค่ะ
ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว
https://www.facebook.com/metourmice
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณเอิงเอย (Travel.trueid)