เที่ยวหน้าฝน 2021
เที่ยวหน้าฝน 2021
มีทัวร์มั้ยพาไป 25 ที่เที่ยวหน้าฝน 2021 Green Season ชุ่มฉ่ำใจ หน้าฝนเที่ยวไหนดี !

หน้าฝนเที่ยวไหนดี ? ถ้าพูดถึงหน้าฝนก็ต้องนึกถึงป่าเขา น้ำตก ล่องแก่ง ใช่ไหมล่ะคะ ตามเราพามารู้จักกับ 25 ที่เที่ยวหน้าฝน ที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดเลยในช่วงนี้ ใครกำลังเล็งๆ อยากไปเที่ยวที่ไหนก็วางแผน เก็บกระเป๋าไปกันได้เลย แต่ถ้าใครยังไม่มีแผนอะไร ลองดูว่า ที่เที่ยวหน้าฝนปีนี้มีที่ไหนตรงใจบ้าง ตามมีทัวร์มั้ยมาดูกันเลย

1. เขาค้อ ชมทะเลหมอก เพชรบูรณ์

เขาค้อ ตั้งอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งในช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ เพราะว่ามีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แม้แต่ในฤดูร้อนค่ะ อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี เพียง 18-25 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง

      อีกทั้งเขาค้อยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ได้มาพักผ่อนอย่าง เขาย่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของ พระตำหนักเขาค้อ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่สวยมากแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่อีกด้วยค่ะ

2. ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง ชัยภูมิ

เข้าหน้าฝนทีไร ใจก็นึกถึงดอกไม้ใบหญ้าสีเขียวสดใสท่ามกลางอากาศสดชื่น ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยว เราชวนไปชิลรับหน้าฝนกับทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่มีให้ดูกันทุกปีที่ชัยภูมิ กับ ทุ่งดอกกระเจียว สีชมพู สีขาว สวยที่บานรับน้ำฝนเย็นฉ่ำที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง 

3. ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ชัยภูมิ

อีกหนึ่งที่ไปชม ดอกกระเจียว ในช่วงหน้าฝนของชัยภูมิก็คือที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ค่ะ โดยตั้งอยู่ที่อำเภอเทพสถิต ซึ่งที่นี่จะมีรถรางของทางอุทยาน คอยบริการรับส่งนักท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ภายในอุทยานฯ ค่ะ ที่นี่มีทั้งหมด 3 ทุ่งด้วยกัน เราจะได้เห็นดอกกระเจียวทั้งดอกใหญ่ และดอกเล็ก มีสีชมพูสดใส ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสดชวนผ่อนคลายสบายตา ถ่ายรูปเพลินๆ กันไปเลยทีเดียว

4. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อของสองจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกค่ะ ในหน้าฝนนั้นเส้นทางที่เดินไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ทั้ง ลานหินปุ่ม ผาชูธง หรือ ลานหินแตก จะเต็มไปด้วยความเขียวชะอุ่มของมอสสีเขียวสดตัดกับแนวพื้นหิน ถ่ายทอดความสุนทรีย์ของวอลล์เปเปอร์ธรรมชาติอย่างสวยงามทีเดียว

5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก พิษณุโลก

จากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ก็สามารถมาสนุกกันต่อกับกิจกรรม ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่จังหวัดพิษณุโลกค่ะ เพราะความท้าทายในการล่องแก่งช่วงกลางของลำน้ำแห่งนี้ ถือว่ามีระดับความยากสูง ระดับ 5 ของการล่องแก่งอันดับต้นๆ ของสายน้ำในประเทศไทยเลยทีเดียว ระยะทางของการล่องแก่งแม่น้ำเข็กนั้น รวมทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร มีแก่งทั้งหมด 18 แก่ง คอเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์จะพลาดได้ยังไงกัน!

6. ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีระดับความสูงถึง 1,768 จากระดับน้ำทะเลค่ะ ทำให้ที่นี่ค่อนข้างมีอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี ทั้งภูเขาจะรายล้อมไปด้วยกะหล่ำปลีลูกกลม นอกจากช่วงหน้าหนาวที่เราจะได้กอดทะเลหมอกอย่างจุใจแล้ว ความอะเมซซิ่งของภูทับเบิกก็คือ หน้าฝนนั้นจะมีหมอกตลอดทั้งวันนั่นเอง

7. อุ้มผาง ตาก

อุ้มผาง ที่นี่มีผืนป่าบริสุทธิ์ เป็นชายแดนติดต่อกับประเทศเมียนมา เส้นทางตัดผ่านเทือกเขา สวยงามอลังการ เราสามารถชมทัศนียภาพ และอากาศบริสุทธิ์ของป่า หรือจะเลือกไปนั่งช้าง ชมผืนป่าจากมุมสูง และแวะไปสัมผัสกระแสน้ำตกสายที่กระเซ็นสดชื่นในหน้าฝนแบบนี้ ก็ดีต่อใจมากทีเดียว

8. น้ำตกเปรโต๊ะลอซู น้ำตกรูปหัวใจ ตาก

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู เรียกได้เป็นหัวใจแห่งขุนเขา เพราะรูปร่างของน้ำตกนั้น มีความสวยงามเหมือนรูปหัวใจนั่นเอง น้ำตกสวยแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดตากค่ะ ความสูงของน้ำตกเทียบเท่ากับตึกใบหยกได้เลยทีเดียว การจะเข้าไปชมน้ำตกได้นั้น ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่า ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์ นอนพักกลางป่ากันเลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นการมาเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์สุดๆ เช่นกัน

9. แพกาญจนบุรี ริมแม่น้ำ กาญจนบุรี

 กาญจนบุรี เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่หลายคนมักคิดถึงเวลาอยากไปเดินทางไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งในช่วงหน้าหนาว และหน้าฝนเลยทีเดียวค่ะ ถ้าได้ไปเที่ยวเมืองกาญจน์ตอนหน้าหนาวก็จะพบกับไอหมอก และอากาศเย็นสบาย แต่ถ้าไปเที่ยวช่วงหน้าฝนก็จะได้บรรยากาศของความชอุ่มชุ่มชื่น และมีกิจกรรมดีๆ อย่าง ล่องแพเปียกไปตามแม่น้ำแคว ให้ได้แอดเวนเจอร์เล็กๆ อีกด้วย

10. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา

จะพลาดได้ยังไงกับแหล่งสูดอากาศบริสุทธิ์ ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียวอย่าง เขาใหญ่ ที่ครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก ค่ะ ที่นี่แม้เป็นฤดูฝน แต่สภาพป่าก็ชุ่มฉ่ำ ป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจีสดสวย มีที่เที่ยวมากมาย น้ำตกทุกแห่งไหลแรงส่งเสียงดังก้องป่า ให้ชีวิตชีวาแก่นักท่องเที่ยวมากๆ ทีเดียวค่ะ 

11. วังน้ำเขียว นครราชสีมา

 เลยจาก เขาใหญ่ มาไม่ไกล อีกหนึ่งที่น่าเที่ยวในช่วงหน้าฝนแบบนี้ก็คือ วังน้ำเขียว ค่ะ ที่นี่ได้ชื่อว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” อีกทั้งยังเป็น ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย เพราะฉะนั้นในวันหยุดสั้นๆ แค่เสาร์-อาทิตย์ ก็มาเที่ยววังน้ำเขียวได้ ที่เที่ยวในวังน้ำเขียว จะเป็นทั้งที่เที่ยวธรรมชาติอย่าง ผาเก็บตะวัน น้ำตกม่านฟ้า อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง และที่เที่ยวชิลๆ ชิคๆ ที่ไปถ่ายรูปสวยๆ กันได้ทั้งครอบครัวอย่าง Village Farm & Winery ฟ้าประทาน โรส พาร์ค หรือ วังน้ำเขียวฟาร์ม เป็นต้น

12. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพชรบูรณ์

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อีกฟีลหนึ่งของการเดินเที่ยวในป่า ความแปลกตาของป่าผืนนี้คือ ป่าสน ที่อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ทำให้ต้นสนที่นี่สูงลิบตา 30-40 เมตร เรียงรายตัดกับพื้นหญ้าเขียวขจีบนภูเขาเพชรบูรณ์ที่สลับซับซ้อน ผสมกับอากาศหนาวเย็นปกคลุมตลอดปี ชวนให้นักท่องเที่ยวเร่งฝีเท้าเข้ารับความสดชื่นในป่าผืนนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้เบื่อ

13. ดอยหลวงเชียงดาว และ ดอยผาแดง เชียงใหม่

ขึ้นเหนือกันบ้าง ตามมาเที่ยวที่ ดอยหลวงเชียงดาว และ ดอยผาแดง ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำปิง และแม่แตง มีความอุดมสมบูรณ์ของป่ามากแห่งหนึ่งของภาคเหนือเลยทีเดียวค่ะ ที่นี่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม บนยอดดอยเป็นเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับภารกิจการเดินทางเที่ยวป่า คนที่เป็นสายเที่ยวเดินป่า ต้องมาสักครั้ง

14. บ้านป่าบงเปียง เชียงใหม่

นาขั้นบันได ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ บ้านป่าบงเปียง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศหน้าฝนซึ่งเป็นฤดูทำนามีความเย็นสบายสดชื่น ยิ่งหลังฝนตกโปรยปรายต้นข้าวสีเขียวขจียิ่งดูชุ่มฉ่ำ บนเนินเขาสูงบวกกับวิวเทือกเขาสลับซับซ้อน แบบนี้ใครจะอยากพลาด!

15. บ้านผาหมอน เชียงใหม่

ไปปักหมุดกับทุ่งนาสวยๆ ที่ บ้านผาหมอน จังหวัดเชียงใหม่กันในหน้าฝนนี้ค่ะ ชมนาขั้นบันได สีเขียวสวยสบายตา ท่ามกลางธรรมชาติเน้นๆ พร้อมกับสัมผัสวิถีชีวิตชาวชาวปกาเกอะญอ ในหมู่บ้านด้วยการนอนโฮมสเตย์ Bamboo Pink House บ้านพักที่อยู่บนสันดอยมองเห็นวิวสวยงามตกแต่งได้น่ารักมากๆ ที่สำคัญคืออยู่ติดกับนาขั้นบันไดอีกด้วย

16. ปาย แม่ฮ่องสอน

พันกว่าโค้งที่สุดแสนจะคุ้ม ปาย แม่ฮ่องสอน ไปถึงแล้วต้องบอกว่าไม่เสียเวลาจริงๆ ที่ได้มาค่ะ ด้วยขุนเขาสูง อากาศดี ทะเลหมอก ที่โอบกอดเมืองเล็กๆ นี้ไว้ ถึงไกลแค่ไหนก็ยอม แล้วใครล่ะจะไม่อยากไปเที่ยวที่นี่สักครั้ง และยิ่งในช่วงหน้าฝน แม้การเดินทางอาจจะค่อนข้างยากลำบากสักหน่อย แต่ถ้าได้มานั่งปล่อยตัวปล่อยใจสบายๆ ท่ามกลางขุนเขารายล้อมแล้วล่ะก็ เป็นอะไรที่ยิ่งกว่าคำว่า ชิล

17. น้ำตกกรุงชิง นครศรีธรรมราช

น้ำตกกรุงชิง เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสูงมากค่ะ เป็นป่าดิบชื้นที่แน่นทึบตั้งแต่ราบต่ำถึงเชิงเขา ทำให้ที่นี่นับเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์ของนกแดนใต้” น้ำตกมีความสูงถึง 7 ชั้น และความงามที่แตกต่างในแต่ละชั้น

18. เขาสก เขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี

ใครอยากตื่นตอนเช้าแล้วเห็นทะเลหมอกกลางภูเขาหินปูน ไม่ควรพลาดที่นี่เด็ดขาด เขาสก เขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี ที่นี่ได้รับขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย แถมความชิลสุดๆ อย่างสโลว์ไลฟ์ด้วยที่พักแพ ได้ปลีกวิเวกของจริงๆ สไตล์มัลดีฟส์ อีกด้วย ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศจะดีมากๆ ทีเดียวเชียว

19. สังขละบุรี กาญจนบุรี

หมู่บ้านน่ารัก ชุมชนมอญเล็กๆ ใกล้ชายแดนเมียนมา ที่ สังขละบุรี จุดท่องเที่ยวอีกแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี หากว่าอยากจะดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติแล้วล่ะก็ที่นี่ตอบโจทย์มากๆ เลยค่ะ อีกทั้งยังมีที่พักแพมากมาย รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวล่องเรือ และหมอกสวยๆ ที่สะพานมอญในตอนเช้า

20. ทุ่งนาสีเขียว อำเภอปัว น่าน

น่าน เมืองแห่งขุนเขา และทุ่งนาสีเขียว ใครอยากเจอนาเขียวๆ ต้องไม่พลาดไปเที่ยวอำเภอปัวในช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ มองไปทางไหนก็ฟินมากๆ แน่ค่ะ นอกจากนี้ที่น่าน ยังมีที่พักกลางทุ่งนา ได้นอนชิลมองวิวทุ่งนาสวยๆ รวมถึงยังมีคาเฟ่ ร้านกาแฟกลางทุ่งนา และที่เที่ยวในเมืองก็มีวัดวาอารามสวยๆ ของเมืองน่านให้ได้เที่ยวอีกด้วย

21. หมู่บ้านสะปัน น่าน

นอกจาก ปัว แล้ว อีกที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยในจังหวัดน่านช่วงหน้าฝนพรำๆ แบบนี้ก็คือ สะปัน หรือ หมู่บ้านสะปัน นั่นเองค่ะ เพราะที่นี่จะมีวิวสวยๆ ของนาขั้นบันได และขุนเขา รวมถึงสายหมอกที่สวยอลังไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยทีเดียว และจะยิ่งสวยสุดๆ ในช่วงฤดูฝนจนถึงฤดูหนาวนั่นเอง อีกทั้งยังมีที่พักโฮมสเตย์ต่างๆ ที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติกว่าที่เคยอีกด้วยนะ! เพราะฉะนั้น หน้าฝนปีนี้ พลาดไม่ได้เลย

22. ภูลังกา ทะเลหมอก หน้าฝน พะเยา

ใครว่าต้องไปเที่ยวหน้าหนาว จึงจะได้เจอกับทะเลหมอกสวยๆ ของ ภูลังกา บอกเลยว่า หน้าฝนก็แฮปปี้ได้เหมือนกันค่ะ ยอดดอยภูลังกา นั้นจะเป็นสันเขา และหน้าผาสูง หลังจากช่วงที่ฝนตกจะมีทะเลหมอกขึ้นมาให้เราได้ชื่นชมกัน และยังชมวิวของฝั่งลาวได้อีกด้วยนะ หรือถ้าใครไม่อยากเข้าป่า ก็สามารถมาชิลที่ ร้านกาแฟ Magic Mountain ได้ เพราะจุดนี้เป็นจุดนั่งชมวิวทะเลหมอกตอนเช้ายอดฮิตของที่นี่เลย

23.  อุทยานแห่งชาติปางสีดา สระแก้ว

ตามเรามาชมธรรมชาติสวยๆ ที่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว ค่ะ กิจกรรมไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ กิจกรรมดูผีเสื้อ นั่นเอง เพราะในช่วงหน้าฝนอย่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ผีเสื้อ มากกว่า 350 ชนิด จะมารวมตัวกันทีนี่ค่ะ โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายภาพสวยๆ ของผีเสื้อได้เพลินๆ ไปเลยที่ โป่งเทียม ซึ่งห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 1 กิโลเมตร และที่ ลานหินดาด ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่นางพาเข้าไปค่ะ นอกจากนี้ยังมี น้ำตกปางสีดา น้ำตกผาหิน 3 ชั้น สูงกว่า 10 เมตรที่สวยงามมากๆ อีกด้วย

24. หุบป่าตาด อุทัยธานี 

นอกจากวัดสวยแล้ว ที่นี่จังหวัดอุทัยธานี ยังมีสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงามเช่นเดียวกันอย่าง หุบป่าตาด ค่ะ ที่นี่จะให้ความรู้สึกแบบป่าโบราณเหมือนในหนังจูราสิค ปาร์คเลยทีเดียวค่ะ ใครที่เป็นแฟนคลับหนังไดโนเสาร์แล้วล่ะก็ จะต้องฟินอย่างแน่นอน ในป่าแห่งนี้ ยังมีถ้ำลึกลับซ่อนตัวอยู่อีกด้วย ทุกคนสามารถเดินทะลุถ้ำได้ ในระยะทางประมาณ 100 เมตร รวมไปถึงที่นี่ยังเป็นสถานที่ค้นพบ กิ้งกือมังกรสีชมพู ที่แรกอีกด้วยนะ

25. น้ำตกปาโจ นราธิวาส

 ปิดท้ายกันที่ใต้สุด นราธิวาส กับ ที่เที่ยวสวยหน้าฝน ที่ต้องห้ามพลาดอย่าง น้ำตกปาโจ ค่ะ น้ำตกของที่นี่จะมีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน ในชั้นแรกจะมีขนาดใหญ่และสวยงดงามที่สุด เป็นความสวยของสายน้ำที่ไหลจากลานผาหินกว้าง สูงถึง 60 เมตรเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงที่สวยที่สุดเลย ก็ต้องมาในช่วงหน้าฝน เดือนพฤษภาคมไปจนถึงตุลาคมนั่นเอง เพราะ น้ำตกปาโจจะยิ่งสวยงามมาก และสภาพป่าก็จะเขียวชอุม เป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์มากๆ 

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากคุณเอิงเอย (Travel.trueid)