เที่ยวหน้าฝน เพชรบุรี สวยเย็น ชุ่มฉ่ำ
เที่ยวหน้าฝน เพชรบุรี สวยเย็น ชุ่มฉ่ำ
มีทัวร์มั้ยพาเที่ยว 11 ที่เที่ยวหน้าฝน เพชรบุรี สวยเย็น ชุ่มฉ่ำ ใกล้กรุงเทพ ธรรมชาติปัง

ต้องบอกเลยว่า เพชรบุรี นั้นไม่ได้โด่งดังเพียงแค่ชายหาดเท่านั้น แต่มีธรรมชาติสวยๆ เหมาะแก่การไปเที่ยวในช่วงฤดูฝนเป็นอย่างมาก เตรียมเก็บกระเป๋าแล้วไปเที่ยวธรรมชาติให้ชุ่มฉ่ำใจกันที่ 11 ที่เที่ยวหน้าฝน เพชรบุรี แล้วทุกคนจะค้นพบว่าจังหวัด ใกล้กรุงเทพ แห่งนี้มีสิ่งให้ตื่นตาตื่นใจมากกว่าที่คิด

1. เขาอีบิด

เชื่อว่าคนที่มาเที่ยว เขาอีบิด ในอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ต้องมีช่วงแว้บหนึ่งที่คิดว่าตัวเองอยู่ใน อุทยานแห่งชาติ Yosimeti ที่ประเทศอเมริกาแน่ๆ เพราะบรรยากาศของที่นี่ให้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอกไม่มีมีผิดเพี้ยน โดยเฉพาะวิวของอ่างเก็บน้ำเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยต้นสน และหุบเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง ถือเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเลยค่ะ แต่ต้องระมัดระวังในการเดินทางเข้ามาเที่ยวที่นี่นิดนึงนะคะ เพราะพื้นที่บางส่วนเป็นของโรงงานโม่หิน ซึ่งยังคงเปิดทำการอยู่ จึงอาจทำให้มีฝุ่นละอองที่เกิดจากการโม่หินได้ แนะนำให้สวมหน้ากากอานามัยทุกครั้งที่มาเยือนที่นี่เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพทุกคน

2. วนอุทยานเขานางพันธุรัต

วนอุทยานเขานางพันธุรัต เป็นที่ตั้งของเทือกเขาสำคัญหลายลูก เช่น เขาเจ้าลายใหญ่ และ เขาจอมปราสาท แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ภูเขาที่มีรูปทรงคล้ายนางยักษ์ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ เขานางพันธุรัต ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติในพวกเราเดินชมได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีผู้นำทาง เปิดโอกาสให้เราได้ชมธรรมชาติอันร่มรื่นอย่างใกล้ชิด ใครที่มีโอกาสไปเยือน วนอุทยานเขานางพันธุรัต ก็อย่าลืมเตรียมกล้องถ่ายรูปไปด้วยนะคะ เพราะทิวทัศน์ที่นี่อลังการงานสร้างมาก ต้องถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้สักหน่อย

3. น้ำตกทอทิพย์

การไปเล่นน้ำเย็นๆ ที่น้ำตกสวยๆ ถือเป็นไฮไลท์ของการเที่ยวช่วงหน้าฝนเลยทีเดียวค่ะ ซึ่ง น้ำตกทอทิพย์ เป็นหนึ่งในน้ำตกชื่อดังภายใน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่มีขนาดใหญ่ถึง 9 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นก็จะความสวยงามแตกต่างกันไป แต่ชั้นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมได้มีเพียงชั้น 5 และ ชั้น 1 เท่านั้น โดยความสูงของน้ำตกชั้น 5 จะอยู่ที่ 15 เมตร เดินลงไปอีกประมาณ 30 นาทีก็จะถึงน้ำตกชั้น 1 ซึ่งเป็นบริเวณของแอ่งน้ำ สามารถลงไปเล่นน้ำกันได้อย่างสนุกสนานเลย

4. น้ำตกผาน้ำหยด

มาถึง น้ำตกผาน้ำหยด สถานที่สุดอันซีนแห่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด เป็นน้ำตกที่มีรูปทรงเหมือนร่ม 3 ชั้นที่กางออกโดยมีสายน้ำไหลผ่านราวกับฝนที่เทกระหน่ำลงมา ดูสวยงามแปลกตา และสดชื่นสุดๆ  ฤดูที่เหมาะสมแก่การมาชมความงดงามของ น้ำตกผาน้ำหยด คือช่วงฤดูฝนค่ะ เพราะเราจะได้เห็นทัศนียภาพของสายน้ำหลั่งที่ลงมาจากผาน้ำตกได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีน้ำใสไหลเย็นให้เราได้ไปเล่นคล้ายร้อนด้วย

5. ล่องเรือแก่งกระจาน

อีกหนึ่งกิจกรรมที่มีชื่อเสียงของ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คือการ ล่องแก่งเรือยาง บน แม่น้ำเพชรบุรี ในระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นกิจกรรมสุดมันส์สำหรับคนที่ชอบความท้าทาย อีกทั้งยังได้ชมความสวยงามของธรรมชาติตลอดสองฝั่งของแม่น้ำอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างอื่นอีก เช่น ขับรถ ATV และเล่นเพนท์บอล รับรองว่าต้องถูกใจสายแอดเวนเจอร์อย่างแน่นอน

6. เขื่อนแก่งกระจาน

 เดินเล่นชมวิวที่ เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนดินที่กั้นแม่น้ำเพชรบุรีในบริเวณ เขาเจ้า และ เขาไม้รวก  สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2509 สามารถเก็บน้ำในถึง 710 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงก่อเกิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีทิวทัศน์งดงาม รายล้อมไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยจำนวน 30 ถึง 40 เกาะ ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาตั้งแคมป์ และพักผ่อนตามรีสอร์ทต่างๆ ที่ตั้งอยู่รอบเขื่อนเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติ นอกจากนี้บริเวณเขื่อนยังมีสะพานแขวนข้ามอ่างเก็บน้ำให้เราได้ไปถ่ายรูป ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็นอีกด้วย

7. แคมป์บ้านกร่าง

ห่างจากเขื่อนแก่งกระจานไปประมาณ 35 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของ แคมป์บ้านกร่าง จุดตั้งแคมป์ก่อนการขึ้นไปชมวิวบน เขาพะเนินทุ่ง อีกทั้งยังเป็นแหล่งชมผีเสื้อกว่า 200 สายพันธุ์ ที่เกาะกินโป่งและน้ำหวานตามบริเวณลำธาร ทำให้เราได้เห็นผีเสื้อหลากสีโบยบินราวกับโลกเทพนิยายเลยค่ะ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชมผีเสื้อจะอยู่ในช่วงเช้าถึงเที่ยงระหว่างเดือนมีนาคมจนถึงมิถุนายน

8. เขาพะเนินทุ่ง

พักเอาแรงที่ แคมป์บ้านกร่าง จนเต็มที่แล้ว ก็ไปลุยกันต่อที่ เขาพะเนินทุ่ง จุดชมวิวที่สวยที่สุดใน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ด้วยความสูงถึง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้เราได้เห็นวิวสวยๆ ของทิวเขาสลับซันซ้อน และทะเลหมอกที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ สร้างความสดชื่นให้แก่ผืนป่ารอบๆ เป็นอย่างมาก

9. โครงการช่างหัวมัน

โครงการช่างหัวมัน ตามพระราชดำริ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาส่งเสริมอาชีพของเกษตรกรให้ยั่งยืนด้วยการปลูกพืชผัก และผลไม้ต่างๆ ตามพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีผู้คนเข้าไปเยี่ยมชมไม่ขาดสายในแต่ละปี นอกจากนี้ยังมีฟาร์มโคนม ฟาร์มไก่ กังหันผลิตไฟฟ้า และอ่างเก็บน้ำเพื่อนำมาใช้ในการเกษตรอีกด้วย

ด้วยพื้นที่กว่า 250 ไร่ ที่นี่จึงมีบริการรถทั่วร์ส่งนักท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ รวมถึงมีการบรรยายข้อมูลการเกษตรและประวัติของโครงการไปด้วย ส่วนใครที่อยากท่องเที่ยวด้วยตนเอง ที่นี่เขามีจักรยานให้เช่าด้วยค่ะ รับรองว่าเที่ยวสนุกพร้อมได้ความรู้แน่นอน

10. อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร

อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิริธร อีกหนึ่งสถานที่ท่องที่ยวที่น่าไปเยือนในหน้าฝนเช่นเดียวกันค่ะ เพราะเป็นพื้นที่สำหรับฟื้นฟูป่าชนิดต่างๆ เช่น ป่าชายเลน ป่าชายหาด ป่าเบญจพรรณ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์นิทรรศการ ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม และ ค่ายสิ่งแวดล้อมนานาชาติ ให้เราได้เห็นการทดลองที่น่าสนใจต่างๆ ด้วย

11. แหลมผักเบี้ย

ไปขี่จักรยานชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิดกันที่ แหลมผักเบี้ย หรือ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องจากพระราชดำริ โครงการเพื่อบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยน้ำลงสู่ทะเล และลำคลอง ตามพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ค่ะ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางให้ศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องของระบบนิเวศป่าชายเลนอีกด้วย แต่นอกเหนือจากการเป็นแหล่งพัฒนาสิ่งแวดล้อมแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากๆ อีกด้วย 

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณSummerB (Travel.trueid)