9 เมืองริมทะเลสาบ เมืองในฝันที่ต้องไปสักครั้ง
9 เมืองริมทะเลสาบ เมืองในฝันที่ต้องไปสักครั้ง
มีทัวร์มั้ยชวนไป 9 เมืองริมทะเลสาบ เมืองในฝันที่ต้องไปสักครั้ง

บนโลกนี้มีเมืองสวยๆ มากมายที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต วันนี้มีทัวร์มั้ยเลยคัดสรร 9 เมืองริมทะเลสาบ ทั่วโลก ที่มาพร้อมทั้งทิวทัศน์ของธรรมชาติสุดอลัง สถาปัตยกรรมที่สวยงาม และบรรยากาศอันเงียบสงบ ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือน เชื่อเลยว่าทุกคนคงอยากจะเก็บภาพประทับใจเหล่านั้นให้คงอยู่ตลอดกาลอย่างแน่นอน

1. Hallstatt ออสเตรีย

เชื่อว่าหลายคนปักหมุดให้ ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เป็นหนึ่งในเมืองในฝันที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต เพราะนอกจากจะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์แล้ว อาคารบ้านเรือนยังมีรูปทรงที่น่ารักสีสันสดใสราวกับโลกในเทพนิยายเลยค่ะ ส่วนมากผู้คนจะนิยมมาเที่ยว ฮัลล์สตัทท์ แบบไปเช้า-เย็นกลับ เพราะเป็นเมืองเล็กๆ ไม่ต้องใช้เวลาท่องเที่ยวนานนัก แต่ถ้าอยากใช้เวลาดื่มด่ำกับทิวทัศน์แสนสวยที่นี่ก็มีที่พักให้บริการด้วยเช่นกัน และด้วยเสน่ห์ที่สามารถพบเห็นได้ไม่ว่าจะไปฤดูไหน รวมถึงประวัติความเป็นมาอันยาวนานจึงทำให้ เมืองฮัลล์สตัทท์ ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกค่ะ

2. Lake Como อิตาลี

ถ้าพูดถึงทะเลสาบที่กว้างใหญ่และสวยที่สุด แน่นอนว่า Lake Como ประเทศอิตาลี คือหนึ่งในนั้นค่ะ ความโดดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้ผืนน้ำขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนตัว Y คว่ำ ล้อมรอบไปด้วยเมืองต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตัวเอง เช่น Como, Bellagio, Varenna, Menaggio และ Lenno เป็นต้น ทัศนียภาพอันงดงามราวกับภาพวาดทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ในฝันที่ใครๆ ก็อยากจะมาชื่นชมธรรมชาติและสถาปัตยกรรมบ้านเมืองด้วยตาตนเอง

3. Interlaken สวิสเซอร์แลนด์

อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) เป็นเมืองสวยเก่าแก่ในสวิสเซอร์แลนด์ที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และ ทะเลสาบทูน (Lake Thun) โด่งดังในเรื่องของสถาปัตยกรรมบ้านเมืองและธรรมชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว แถมยังเป็นเมืองพักผ่อนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปค้างคืนก่อนขึ้นไปชมทัศนยภาพบน เทือกเขาจุงเฟรา (Jungfrau) อีกด้วยค่ะ

4. Bled สโลวีเนีย

แม้ ทะเลสาบเบล็ด จะมีเนื้อที่เพียง 1.45 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่กลับมีทัศนียภาพที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเกาะเล็กๆ กลางทะเลสาบอย่าง Bled Island ที่มี Pilgrimage Church of the Assumption of Maria โบสถ์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระแม่มารีในช่วงศตวรรษที่ 17 นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเกาะได้ฟรี แต่ถ้าจะเข้าโบสถ์ก็จะต้องเสียค่าเข้าเพียง 6 ยูโร เท่านั้นค่ะ นอกจาก Bled Island แล้ว บนฝั่งแผ่นดินที่โอบล้อมทะเลสาบยังมี ปราสาท Bled Castle ตั้งอยู่บนยอดเขา ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่บ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมและศิลปะในประเทศแถบนี้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

5. Kawaguchiko Lake ญี่ปุ่น

ไปกันต่อที่ ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Lake) 1 ใน 5 ทะเลสาบที่ตั้งอยู่รอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) สัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ที่นี่มีทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ โดยเฉพาะช่วงดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิประมาณกลางเดือนเมษายน และฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนพฤศจิกายน รับรองว่าทุกคนจะได้ภาพที่สวยสุดประทับใจกลับมาอย่างแน่นอน ใครที่ไปเยือนคาวากูจิโกะก็อย่าลืมแวะไปที่ พิพิธภัณฑ์คาวากูจิโกะมิวสิคฟอร์เรส (Kawaguchiko Music Forest) พิพิธภัณฑ์ดนตรีที่จะทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจไปกับสวนหย่อมแสนสวย และการแสดงแสงสีเสียงสุดอลังการ

6. Yueyaquan Crescent Lake ประเทศจีน

มาถึงพิกัดสุดแปลกอย่าง ทะเลสาบจันทร์เสี้ยว หรือ เย่ว์หยาเฉวียน (Yueyaquan Crescent Lake) ทะเลสาบที่มีความยาวเพียง 300 เมตร และความกว้าง 50 เมตรใน มณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกของประเทศจีน ทางทิศใต้ของทะเลสาบเป็นที่ตั้งของ วิหารเจ้าแม่ ศาลเจ้าพญามังกร และ หอน้ำพุหยก หากมองจากไกลๆ จะดูเหมือนเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่ ด้านข้างของทะเลสาบจะมีเนินทรายขนาดใหญ่ แต่เพราะทิศทางของกระแสลมที่พัดขึ้นด้านบนอยู่เสมอจึงทำให้เนินทรายแห่งนี้ไม่เคยถล่มลงมาทับทะเลสาบเลยสักครั้งค่ะ 

7. Bratan อินโดนีเซีย

ทะเลสาบบราตัน (Bratan) ถือเป็นทะเลสาบที่มีมนต์ขลังแห่ง เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นที่ตั้งของ วัดอูลันดานู บราตัน (Pura Ulan Danu Bratan) 1 ใน 5 วัดสำคัญของเกาะบาหลีที่มีความสวยงามและมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ทำพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ และฮินดู นั่นก็คือ เทวี ดานู เทพีแห่งสายน้ำในท้องทะเลสาบบราตันนั่นเองค่ะ

8. Wanaka นิวซีแลนด์

นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติและบรรยากาศอันเงียบสงบ ซึ่ง ทะเลสาบวานาก้า (Wanaka Lake) ก็ถือเป็นทะเลสาบที่สวยงามมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสายน้ำที่ใสราวกับกระจก วิวของภูเขาที่ตั้งตระหง่าน และหาดทรายที่ทอดยาวผ่านผืนน้ำไปจนถึงแนวเขา เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมสำหรับชาวนิวซีแลนด์ ในฤดูร้อนเราจะเห็นผู้คนออกมาเล่นน้ำ ตกปลา ปีนเขา และพายเรือคายัคกัน แต่พอเข้าสู่หน้าหนาว ทั่วทั้งพื้นที่จะปกคลุมไปด้วยหิมะจึงเหมาะแก่การเล่นสกีค่ะ 

9. Matheson Lake นิวซีแลนด์

ปิดท้ายด้วย ทะเลสาบแมธเทอสัน (Matheson Lake) ทะเลสาบแสนสวย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ แม้จะเป็นทะเลสาบที่มีขนาดเล็ก แต่กลับมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามสุดจะบรรยาย โดยเฉพาะเงาของ ภูเขาคุก (Cook) และ ภูเขาทาสมัน (Tasman) ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ ด้วยเหตุนี้ ทะเลสาบแมธเทอสัน จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนนิวซีแลนด์ค่ะ

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณSummerB (Travel.trueid)