กำแพงเพชร จังหวัดที่มี อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ที่สวยงามแบบนี้ จะไม่มีวัดสวย วัดดัง วัดเก่าแก่ให้เราไปเที่ยวไหว้พระกันได้อย่างไร มีทัวร์มั้ยเลยจัดทริปทัวร์ ไหว้พระ 9 วัด กำแพงเพชร มาฝากทุกคนกันค่ะ เป็นวัดที่สายบุญต้องตามไปไหว้ขอพรกันเลย บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาดค่า

1. วัดเสด็จ

วัดเสด็จ นั้นเป็นวัดมหานิกายธรรมยุต ที่เก่าแก่ แต่ไม่ได้มีปรากฏชื่อและหลักฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยใดค่ะ แต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นมาจากการร่วมใจกันของชาวบ้านนั่นเอง โดยไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ จะมี รอยพระพุทธบาทจำลอง รวมถึงยังเคยเป็นที่เก็บศิลาจารึก และมีตำนานในเรื่องของ พระเครื่องชื่อดัง รวมถึงยังเป็นวัดที่ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี วัดระฆัง และ ในหลวงรัชกาลที่ 5 ต่างก็เคยเสด็จมายังวัดนี้อีกด้วยค่ะ

2. วัดเทพโมฬี

วัดเทพโมฬี เป็นอีกวัดหนึ่ง ที่มีความร่วมสมัยกับโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรค่ะ เพราะเมื่อในสมัยที่ยังเป็นเมืองชากังราวนั้น ได้มีการประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ที่เรียกกันว่า หลวงพ่อโม้ ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายแล้ว อายุประมาณ 500-700 ปีเลย จนมาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่โดยการสร้างครอบองค์เดิมไว้ภายใน ซึ่งตั้งแต่อดีตมาจนถึงในปัจจุบันนั้น ชาวกำแพงเพชรก็นิยมมากราบไหว้กันอย่างมาก และนิยมนำขนมจีน-น้ำยา แป้งข้าวหมากมาถวายกันอีกด้วยค่ะ 

3. วัดพระบรมธาตุนครชุม

วัดพระบรมธาตุนครชุม หรือ วัดพระบรมธาตุเจดียาราม เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่ในสมัยยุคสุโขทัย ราวๆ เมื่อ 600 ปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อก่อนบริเวณนี้ จะมีชื่อว่า นครชุม โดยวัดนี้ก็ได้เป็นพระอารามหลวงประจำของเมืองนครชุมนั่นเอง ตามประวัติศาสตร์ยังบอกไว้อีกว่า พระยาลิไท แห่งราชวงษ์สุโขทัย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกาเอาไว้ และปลูกพระศรีมหาโพธิ์จากลังกาไว้ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ 

4. วัดพระแก้ว

วัดพระแก้ว เป็นวัดที่สำคัญอยู่ติดกับบริเวณของในอยุธยาเลยค่ะ โดยมีกำแพงวัดเป็นศิลาแลงกลมทั้งท่อน สูงประมาณเมตรเศษๆ ซึ่งสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดนั้น ก็ใช้ศิลาแลงเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นก้จะมีพระเจดีย์กลมแบบลังกาองค์ใหญ่เป็นประธาน ฐานสี่เหลี่ยม มีซุ้มคูหาโดยรอบ มีสิงห์ยืนอยู่ในคูหา แต่น่าเสียดายที่ชำรุดไปแล้ว แต่ก็ได้มีการขุดพบฐานเจดีย์แบบต่างๆ รวมกว่า 35 ฐานด้วย โดยในปัจจุบันนั้นวัดพระแก้วก็ยังเป็นสถานที่จัดงานนบพระเล่นเพลง และงานวันสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชรอีกด้วยค่ะ

5. วัดพระสี่อิริยาบถ

วัดพระสี่อิริยาบถ หรือที่เรียกกันว่า วัดพระยืน นั้น เป็นวัดที่มีกำแพงศิลาแลงปักตั้งล้อมกันถึง 4 ด้าน มีทางเข้าปูด้วยศิลาแลง และมีศาลาโถงปลูกคร่อมทางเดิน โดยที่ฐานชุกชี จะมีรอยตั้งพระพุทธรูปนั่ง ส่วนบริเวณมณฑปพระอิริยาบถ นั้น จะมีกำแพงแก้วเตี้ยๆ เหลือแต่ฐาน และมีพระพุทธรูปปูนปั้นถึง 3 ด้านด้วยกัน แต่ทั้งหมดนั้นชำรุดอย่างมาก แต่ก็พอจะเห็นเป็นร่องรอย ดูรู้ว่าเป็นพระพุทธรูปค่ะ ถือได้ว่าเป็นหลักฐานพระพุทธศิลปในแบบสุโขทัย สกุลช่างกำแพงเพชร ที่หาดูได้ยากมากๆ เลยค่ะ

6. วัดช้างรอบ

วัดช้างรอบ ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรเลยค่ะ เพราะเป็นวัดใหญ่ที่สวยงามและตั้งอยู่บนเนินสูงโดยจะมีพระเจดีย์ใหญ่ ซึ่งมีฐานเจดีย์กว้างถึง 31 เมตร รอบเจดีย์ก็จะมีรูปสลักเป็นช้างทรงเครื่องจำนวน 68 เชือกเลยทีเดียว ซึ่งระหว่างช้างก็จะมีลายปูนปั้นเป็นรูปใบโพธิ์ กับมีรอยตั้งรูปยักษ์ และนางรำติดอยู่ด้วย แม้จะไม่สมบูรณ์มาก แต่ก็พอจะมองเห็นอยู่ค่ะ โดยลักษณะของโบราณวัตถุนี้ บ่งบอกได้ว่าเป็นศิลปะอาณาจักรอยุธยาตอนต้น หรือ สุโขทัยตอนปลายนั่นเองค่ะ

7. วัดคูยาง

วัดคูยาง เป็นวัดเก่าแก่ พระอารามหลวง ที่ไม่ปรากฎหลักฐานอะไรเลย แต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า 400 ปีค่ะ โดยภายในพระอุโบสถนั้น จะมีพระพุทธรูปเก่าแก่อย่าง หลวงพ่อโต ประดิษฐานอยู่ และมี หอไตร ที่ตั้งอยู่กลางน้ำ ยกใต้ถุนสูงเป็นภูมิปัญญาของชาวพื้นเมืองเป็นไฮไลท์ของวัดอีกด้วยค่ะ โดยสร้างขึ้นมาก็เพื่อที่จะรักษาพระไตรปิฎกเอาไว้นั่นเอง 

8. วัดบาง

มาถึงอีกวัดที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองของ กำแพงเพชร ก็คือ วัดบาง สันนิษฐานกันว่าที่ชื่อวัดบางนั้น น่าจะเป็นเพราะว่าที่ตั้งของวัด อยู่ใกล้กับคลองน้ำซึ่งแยกจากแม่ปิงไปสู่หนองรี ซึ่งคลองน้ำนี้จะเรียกว่า "บาง" นั่นเอง พอวัดนี้มาตั้งอยู่ที่นี่ ก็เลยได้ชื่อว่า "วัดบาง" ค่ะ โดยไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ หลวงพ่อเพชร ที่มีอายุกว่า 800 ปี เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของกำแพงเพชรเลยค่ะ ซึ่งชาวกำแพงเพชรเชื่อกันว่า ใครที่ได้มาสักการะบูชาแล้ว ก็จะร่ำรวย มั่งมี เหมือนกับครั้งในสมัยเชียงแสนนั่นเองค่ะ

9. วัดศรีโยธิน

และวัดสุดท้ายก็คือ วัดศรีโยธิน แห่งนี้ ที่มีการพบพระพุทธรูปโกลนศิลาแลง ขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร จมดินอยู่บริเวณหลังฌาปนสถานของเทศบาล ในลักษณะฝังดินอยู่ ก็เลยได้มีการทำพิธี อัญเชิญขึ้นมา ซึ่งก็มีชิ้นส่วนหลายชิ้นด้วยกัน ต่อมาก็เลยได้ประดิษฐานเป็นพระประธานในวัดศรีโยธินนี้ และได้ตกแต่งให้เป็นองค์พระที่สวยงดงาม โดยเมื่อก่อนนั้นจะเรียกกันว่า หลวงพ่อศิลาแลง แต่ภายหลังก็ขนานนามท่านว่าเป็น หลวงพ่อศรีสรรเพชญ์ ค่ะ

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากคุณNukkpidet (Travel.trueid)