นานแล้วค่ะ ที่ไม่ได้ไปเที่ยวแบบสมบุกสมบันเท่าไหร่ วันนี้เลยขอจัดสักหน่อย ใครกำลังกระหายการออกไปผจญภัยในป่าใหญ่เหมือน อลิซ ในวันเดอร์แลนด์แล้วล่ะก็ ไม่ต้องตีตั๋วไปเที่ยวประเทศนอกที่ไหน จัดกระเป๋าเตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม แล้วมาเที่ยวกับเราที่ “ถ้ำพุหวาย” จังหวัดอุทัยธานี รับรองว่าได้ฟีลแอดเวนเจอร์เล็กๆ กลับบ้านไป แถมยังหายใจได้อากาศสะอาดๆ เต็มปอดกับป่าที่อุดมสมบูรณ์ของที่นี่อีกด้วย พร้อมรึยังคะ ?? ถ้าพร้อมแล้วก็ตามเราไปผจญภัยกันได้เลยยย…
ถ้ำพุหวาย ที่เรามากันในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานถ้ำเขาวงค่ะ ถ้ำนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก และค้างคาวที่อาศัยอยู่ในถ้ำก็มีทั้งหมดถึง 9 ชนิดด้วยกัน ซึ่งถือได้ว่าเกือบจะเยอะที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
เมื่อเรามาถึง เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็มาอำนวยความสะดวกด้วยการเป็นไกด์พาเราเที่ยวถ้ำ และให้อุปกรณ์นำทาง ก็คือ ไฟฉายคาดศีรษะสำหรับชมถ้ำ ค่ะ เพราะด้านในจะมืดมากขนาดมองอะไรไม่เห็นเลยทีเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาผจญภัยแบบเราก็อย่าลืมมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก่อนเข้าชมนะคะ
การเข้าไปในถ้ำพุหวายนั้นไม่ไกลจากลานจอดรถเท่าไหร่ เพียง 200 เมตรค่ะ แต่บังเอิญว่าเป็น 200 เมตรในแนวดิ่ง ก็เลยทำเอาหอบเบาๆ ได้อยู่เหมือนกัน เป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นจริงๆ เกือบจะถึงปากถ้ำ เราก็เจอกับภาพวาดของ “น้ำตกหินปูน” ของถ้ำพุหวายค่ะ และนี่เป็นไฮไลท์ที่เราจะต้องดั้นด้นไปให้ถึงในวันนี้ ไม่รู้ว่าของจริงจะสวยกว่าภาพวาดขนาดไหน
สภาพโดยทั่วไปของถ้ำพุหวายนั้น เป็นภูเขาหินปูนสูงชันสลับซับซ้อน ภายในถ้ำกว้างขวาง มีโพรงทะลุถึงด้านตรงข้ามของภูเขา ทำให้อากาศภายในถ้ำไม่อับชื้น สามารถหายใจได้สะดวก เพราะมีอากาศถ่ายเทตลอดค่ะ เดินเข้ามาด้านใน จุดแรกที่เราจะเจอก็คือ พระพุทธรูปซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำค่ะ หลังจากไหว้พระกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินกันต่อไป
เจ้าหน้าที่อุทยานฯ อธิบายเรื่องหินงอกหินย้อยให้กับเราฟังค่ะ และชี้ให้เห็นจุดที่หินกำลังงอกขึ้นมาจากพื้นดิน ซึ่งรู้สึกเหมือนเราได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้านี้เลยทีเดียว หินที่งอกออกมานั้นใช้เวลา 1 ปีจึงจะสามารถงอกขึ้นมาได้แค่ 7 มิลลิเมตรเท่านั้นค่ะ ได้ยินถึงกับขนลุก เพราะมองไปรอบๆ ถ้ำแล้ว หินงอก หินย้อยพวกนี้ ต้องใช้เวลาอีกร้อย กี่พันล้านปี ก็ไม่ทราบได้ ถึงมาปรากฏให้เราได้เห็นกันอย่างทุกวันนี้ เป็นความพยายามอย่างยิ่งยวดของธรรมชาติที่จะสร้างผลงานปะติมากรรมนี้ขึ้น
แอบส่องไฟขึ้นไปบนเพดานถ้ำ เจอกับค้างคาวกำลังห้อยหัวอยู่เต็มไปหมดค่ะ อะเมซิ่งไทยแลนด์ดีจริงๆ ด้านในก็จะมีหินงอกหินย้อยเป็นรูปร่างต่างๆ มากมายค่ะ ทั้งเสาหินล้านปี หินทรงกลด หินรูปฐานประทับเทพ ป็นเจ้าแม่กวนอิมทรงประทับอยู่บนหิน และไฮไลท์ที่เราคุยกันไว้ตั้งแต่ตอนแรกก็คือ “น้ำตกหินปูน” ค่ะ สวยกว่าในภาพวาดตรงทางเข้าซะอีก เป็นงานศิลปะของธรรมชาติขนานแท้ทีเดียวค่ะ
ออกมาจากถ้ำก็มาถึงทางเดินที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ดอกไม้ค่ะ มองไปเห็นวิวทิวเขา สวยงามมาก และอากาศก็ดีมากๆ เช่นกัน เดินต่อไปอีกสักหน่อยก็จะเจอถ้ำเล็กๆ ซึ่งเคยเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่อาจารย์สุรศักดิ์ พระธูดงมาจำศีลที่นี่ค่ะ ภายหลังท่านถูกลอบยิงและมรณภาพ ข้าวของของท่านจึงถูกนำมาไว้ที่นี่ค่ะ
เราใช้เวลาเดินชมถ้ำพุหวายทั้งหมด 1 ชั่วโมงด้วยกัน ใครอยากมาผจญภัยเล็กๆ แบบเราก็สามารถมาได้ที่ ถ้ำพุหวาย จ.อุทัยธานีค่ะ
ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว
https://www.facebook.com/metourmice
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากคุณเอิงเอย (Travel.trueid)