เทศกาล ทานาบาตะ ญี่ปุ่น วันที่ 7 เดือน 7 ตำนานเจ้าหญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัว
เทศกาล ทานาบาตะ ญี่ปุ่น วันที่ 7 เดือน 7 ตำนานเจ้าหญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัว
มีทัวร์มั้ยพารู้จักเทศกาล ทานาบาตะ ญี่ปุ่น วันที่ 7 เดือน 7 ตำนานเจ้าหญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัว

วันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปีนั้น เป็นวันเทศกาลที่สำคัญของ ญี่ปุ่น นั่นก็คือ เทศกาลทานาบาตะ หรือ TANABATA หรือจะเรียกว่าการเฉลิมฉลอง Hoshi (ดาว) ทานาบาตะ Tanabata (Seven Evening) ก็ได้ค่ะ

วันที่ 7 เดือน 7 เทศกาล ทานาบาตะ ญี่ปุ่น

การฉลองทานาบาตะนี้ เริ่มในศตวรรษที่ 9 หรือที่ 10 ดาวคนเลี้ยงวัวเป็นตัวแทนของพรสวรรค์ด้านศิลปะ ส่วนหญิงทอผ้าเป็นตัวแทนของความสูงศักดิ์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมา ชาวญี่ปุ่นก็เริ่มเขียนกลอนไปไว้บน ต้นไผ่ เพราะว่าต้นไผ่ถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในยุคนั้น

ส่วนของที่แขวนบนต้นไผ่ก็จะมี กระดาษที่ใช้อธิฐานที่เรียกว่า Tanzaku จะตัดเป็นรูปกิโมโนสำหรับเจ้าหญิงทอผ้า กับด้ายห้าสี สำหรับชายเลี้ยงวัว พอแขวนจนพอใจแล้ว ก็จะนำต้นไผ่นั้นไปลอยแม่น้ำค่ะ

เทศกาลนี้จะว่าไปก็เป็นการฉลองวันแรกของการเพาะปลูกของญี่ปุ่นนั่นเอง ผู้คนจะอธิฐานขอให้การเพาะปลูกได้ผลดีจากเทพวัว และขอให้สามารถทอผ้าได้เก่งจากเทพทอผ้า ในปัจจุบัน พอพูดถึง Tanabata คนญี่ปุ่นจะนึกถึง วันหยุดของเด็กๆ การประดับต้นไผ่ เปรียบเหมือนกับการตกแต่งต้น Christmas ของฝรั่งนั่นเอง

สำหรับเทศกาลของ หญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัว เป็นเรื่องที่ญี่ปุ่นเอามาจากจีน เรื่องเล่านี้มีมาตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ถังในประเทศจีน เป็นเรื่องของดาวสองดวง คือ Orihime (Weaves cloths) กับ Hikohoshi (who breeds cattle in the heave) เป็นวันที่ดาวที่สว่างที่สุดสองดวงนี้จะมาพบกัน ปกติดาวทั้งสองจะอยู่คนละฝากของทางช้างเผือก ซึ่งจะมาใกล้กันที่สุดก็คือในคืนวันทานาบาตะนี่แหละ

ตำนาน เทศกาลทานาบาตะ

มีเรื่องเล่าอยู่ว่า เจ้าหญิงทอผ้าชื่อว่า Ori Hime อาศัยอยู่ในปราสาทบนฝั่งตะวันออกของทางช้างเผือก เป็นลูกสาวของกษัตริย์แห่งท้องฟ้า (หรือจักรวาล) ทำหน้าที่ทอผ้าอยู่ที่แม่น้ำอามาโนกาวะ หรือแม่น้ำแห่งสวรรค์ เจ้าหญิงใช้เวลาของเธอไปกับการทอผ้าให้กับพระบิดา ต่อมาพระบิดาได้ข่าวว่าที่อีกฝากของทางช้างเผือกมีชายหนุ่มที่กล้าหาญ และหล่อเหลาที่ชื่อว่า Hikoboshi ผู้เลี้ยงวัว อาศัยอยู่อีกฝั่งของทางช้างเผือก เมื่อทั้งคู่ได้พบกัน ไม่นานนักทั้งคู่ก็ได้หลงรักกันและได้แต่งงาน 

เมื่อแต่งงานแล้วเจ้าหญิงโอริฮิเมะก็ไม่ได้ขยันทอผ้าดั่งที่เคย ส่วนฮิโกโบชิก็ได้ปล่อยให้วัววิ่งเพ่นพ่านไปทั่วสวรรค์ ด้วยความโกรธ กษัตริย์แห่งท้องฟ้าจึงได้แยกทั้งคู่ไม่ให้พบกัน กีดกั้นโดยทางช้างเผือก โอริฮิเมะเสียใจจากการสูญเสียสามีจึงได้ขอร้องบิดาของตนให้ได้เจอกับสามีของนางอีกครั้ง

กษัติรย์จึงยอมให้ทั้งคู่สามารถเจอกันได้ในวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี แต่จะสามารถพบได้ก็ต่อเมื่อเธอทำงานอย่างหนัก และทอผ้าจนเสร็จ เมื่อถึงเวลาที่จะได้พบกันอีกครั้งแรก ทั้งคู่ไม่สามารถข้ามทางช้างเผือกมาพบกันได้เนื่องจากไร้ซึ่งสะพานข้ามทางช้างเผือก เมื่อรู้ดังนั้น โอริฮิเมะได้ร้องไห้อย่างหนักจนฝูงนกกางเขนได้เข้ามาหาด้วยความสงสาร และสัญญาว่าจะสร้างสะพานโดยใช้ปีกของพวกมันช่วยกัน จนเธอสามารถข้ามทางช้างเผือกได้

ทั้งสองจะพบกันได้ก็แต่เพียงในคืนของวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปีเท่านั้น ชายหนุ่มและหญิงสาว เศร้ามาก ได้แต่คอยนับวันที่เขาทั้งสองจะได้พบกันอีกในคืนที่เจ็ดของเดือนที่เจ็ดนั่นเองค่ะ

มีคนกล่าวไว้ว่าถ้าในวันทานาบาตะปีไหนเกิดฝนตก เหล่าฝูงนกกางเขนจะไม่สามารถช่วยเป็นสะพานในปีนั้นได้ จะทำให้ทั้งคู่ต้องรออีกถึงปีหน้าเพื่อที่จะได้พบกันอีก

 

ทังซะคุ (Tanzaku) คำอธิษฐานขอพรบนกระดาษ

นอกจากตำนานความรักของชายเลี้ยงวัวกับหญิงทอผ้าแล้ว กิจกรรมอีกอย่างที่เราจะเห็นในวันนี้ก็คือ การเขียนคำอธิษฐานขอพรลงบนกระดาษแผ่นเล็กๆ ยาวๆ ที่เรียกว่า ทังซะคุ (Tanzaku) เมื่อเขียนเสร็จจะนำกระดาษไปแขวนไว้กับกิ่งไผ่ เพื่ออธิษฐานขอพรจากดวงดาว โดยที่สีกระดาษต่ละสีจะเหมาะกับการขอพรที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น

  • สีชมพู-ม่วง ขอพรเรื่องความรักให้สมหวัง
  • สีแดง ขอพรให้กับพ่อแม่ หรือบุพการีผู้เลี้ยงดู
  • สีขาว ขอพรให้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • สีเหลือง ขอพรด้านความสัมพันธ์ต่างๆ เช่น เพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนร่วมงาน
  • สีดำ ขอเรื่องการเรียน การสอบต่างๆ

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณเอิงเอย (Travel.trueid)