ทริปต่างประเทศ เที่ยวเวียดนาม กันคราวนี้ เราปักหมุดกันมาที่ ดานัง Da Nang ค่ะ หลังจากไปเที่ยว ฮอยอัน Hoi An มรดกโลก ในเวียดนาม มากันมาแล้ว วันนี้เราออกจากเมืองฮอยอันมานิดนึง นั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก ขึ้นไป ที่เที่ยวเวียดนามสวยๆ กันที่ บานาฮิลล์ Ba Na Hills เมืองฝรั่งเศสแสนสวยในหุบเขาสูง อากาศดี 10 กว่าองศา สวยเหมือนได้ไปเที่ยวยุโรปกันเลยทีเดียว ตามเราไปชิล เมืองยุโรปในเวียดนาม กันได้เลย
บานาฮิลล์ Ba Na Hills ตั้งอยู่ห่างจาก เมืองดานัง (Da nang) ประมาณ 40 กิโลเมตรค่ะ ใช้เวลาเดินทางสัก 40-50 นาที ถ้ามาเที่ยวถึงดานังแล้วขอแนะนำให้มาที่นี่ด้วย เพราะที่ บานา ฮิลล์ นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต และสวยมากๆ เหมือนได้ไปเที่ยวยุโรปเลยค่ะ
บานาฮิลล์ นั้นเคยเป็นสถานที่ตากอากาศของชาวฝรั่งเศสมาตั้งแต่ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เลยทีเดียวค่ะ และได้มีการสร้างบ้านพัก โรงแรมในสไตล์ฝรั่งเศสขึ้นในสมัยที่เป็นอาณานิคมตั้งแต่ปี ค.ศ.1919 และหลังจบสงคราม ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ และกลับประเทศไป ทำให้ บานาฮิลล์ ถูกทิ้งร้าง และกลับมาบูรณะเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งในปี ค.ศ.2009 พร้อมกระเช้าลอยฟ้า 5,801 เมตรที่ต้องใช้เวลาถึง 50 นาทีในการนั่งกระเช้าเพื่อไปทีเดียวค่ะ นับว่าเป็นการนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย
เรานั่งรถจากในเมืองดานังมายังบานาฮิลล์ค่ะ ซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าเป็นที่เรียบร้อยราคาคนละ 550,000 ดอง ซึ่งจะเป็นทั้งราคาค่าขึ้นกระเช้า และราคาค่าสวนสนุกด้านบนด้วย ที่นี่เราสามารถไปเที่ยวแบบเช้ากลับเย็น หรือจะค้างคืนด้านบนก็ได้ค่ะ แต่อากาศข้างบนบานาฮิลล์นั้นจะค่อนข้างหนาวเย็นผิดกับด้านล่างลิบลับเลยทีเดียว เราต้องพกเสื้อแจ็คเก็ต หรือเสื้อกันหนาวหนาๆ ติดไปด้วยนะคะ
จุดแรกที่มาถึงก็คือ จุดถ่ายรูปยอดฮิตของบานาฮิลล์ ก็คือ สะพานมือยักษ์ Golden Bridge นั่นเอง ตรงนี้คนเยอะมากๆ ค่ะ ต้องหามุมดีๆ ถ่ายรูปจะได้ไม่ติดคนอื่นเยอะ สะพานสูงเหนือเมฆกันเลยทีเดียว ถ่ายรูปตรงนี้คือสวยอลังการมากๆ ต้องห้ามพลาดนะคะ
จุดต่อมา พอเดินลงจากกระเช้าก็จะมาถึง สวนสนุก Fantasy Park กันก่อนเลย ที่มีทั้งเกมส์ และเครื่องเล่น ให้ได้เลือกสนุกกันเต็มที่ค่ะ เรามาถึงบ่ายๆ แล้ว เลยอยากไปเดินเล่นชมวิวที่สวนดอกไม้ Le Jardin d’ Amour มากกว่า เลยนั่งกระเช้าช่วงสั้นๆ อีกแห่งต่อไปที่สวนค่ะ
Le Jardin d’ Amour เป็นสวนสวยสไตล์ฝรั่งเศสที่มีทั้งดอกไม้ต้นไม้ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เต็มไปหมด รวมไปถึงมี โรงไวน์ Debay Wine Cellar อีกด้วยค่ะ เราเดินไปเที่ยวด้านในจะเป็นคล้ายๆ อุโมงค์ใต้ดินไว้บ่มไวน์ เป็นทางยาวเดินทะลุชมไปเรื่อยๆ ก็จะออกมาที่สวนค่ะ ถ่ายรูปสวยๆ กันได้ตลอดทาง นอกจากนี้ เดินไปไม่ไกลยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวที่สูงถึง 27 เมตรอีกด้วย
หลังจากนั่งเล่น เดินเล่นจนเย็นแล้ว ลมหนาวก็เริ่มพัดมาให้ขนลุก ตอนนี้อากาศน่าจะอยู่ที่ 20 องศานิดๆ ค่ะ เหมือนเปิดแอร์เย็นๆ ได้เวลากลับที่พักกันแล้ว คืนนี้เรานอนที่ Mercure Danang French Village Bana Hillsที่พักบนบานาฮิลล์ ที่สวยมากๆ ตกแต่งในสไตล์ฝรั่งเศส เข้ากับบรรยากาศสุดๆ เอาไว้ไปทานมื้อค่ำ แล้วค่อยออกมาเดินเล่นในเมืองฝรั่งเศสกันต่อ
อาหารค่ำวันนี้ ดินเนอร์เป็นคอร์สตามที่โรงแรมจัดเซ็ตไว้ให้ อลังการมากจริงๆ ค่ะ เริ่มจากซุปปูเป็นออร์เดิร์ฟ ต่อด้วยหอยตลับตัวโตราดซอส และสลัดยอดอ่อนทานตะวันกับกุ้งค่ะ จานหลักเป็นปลาแซลมอนย่าง และถั่วบด ตบท้ายมื้อด้วยของหวานอย่างพานาคอตต้าตามแบบฉบับฝรั่งเศส อิ่มไปกันไปยันดึกทีเดียวค่ะ
หลังมื้ออาหารแทบเดินไม่ไหว แต่ใจก็ยังอยากถ่ายรูป เราเลยออกมาเดินรับลมถ่ายรูปเมืองฝรั่งเศสตอนค่ำ ที่นี่อย่างกับเมืองยุโรปของแท้เลยทีเดียว ผู้คนที่ขึ้นมาเล่นสวนสนุกในตอนบ่ายก็ทยอยลงไปกันหมดแล้ว ทำให้เงียบสงบมากๆ แทบจะกลายเป็นเมืองของเราไปเลยทีเดียวค่ะ ถ่ายรูปเพลินๆ ไปเลยอีก แต่อากาศค่อนข้างเย็นมากๆ เลยทีเดียวสัก 10 องศาได้ เดินได้นิดๆ หน่อยๆ ก็กลับที่พัก นั่งชิลที่บาร์ชิลไปค่ะ
หากใครที่มองโปรแกรมการท่องเที่ยวเวียดนามไว้แต่ยังไม่รู้จะเดินทางยังไง สอบถามเรา มีทัวร์มั้ยได้น้า รับรองว่าจะพาไปชมเวียดนามให้จุใจ
ติดตามพวกเรามีทัวร์มั้ยแบบใกล้ชิดกว่าใครได้ที่